อินเดีย…ไปกี่ครั้งเราก็ชอบ!!!อินเดีย… มีเสน่ห์ สนุก ตื่นเต้นและหลากรสมากอินเดีย… มีเรื่องราวที่ให้ประหลาดใจตลอด
และนี่คือ “อินเดีย”..ที่เราไม่เคยหยุดสร้างสรรค์รายการท่องเที่ยวมาเพื่อคุณ
รายการทัวร์
วันที่ 1
กรุงเทพฯ - เดลลี - //(บินภายประเทศ)เดลลี-ชัยปุระ
-
-
D
04.30 น. คณะพร้อมกัน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
ชั้น4
ประตู 4 เคาน์เตอร์สายการบินไทย
เจ้าหน้าที่บริษัทต้อนรับและอำนวยความสะดวกเรื่องสัมภาระและเอกสารการเดินทางแก่ท่าน
07.35น. ออกเดินทางจากสู่ เดลลี โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 323 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง)
10.35 น. เดินทางถึง
ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตามเวลาท้องถิ่นผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและตรวจรับสัมภาระ…รอต่อเครื่องบินในประเทศ
þ เวลาที่อินเดียช้ากว่าประเทศไทย 1.30 ชั่วโมง
þ
13.05 น. ออกเดินทางจากสู่ ชัยปุระ โดยสายการบิน Indigo
เที่ยวบิน 6E 2204
13.45 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานเมืองชัยปุระ เมืองหลวงของรัฐราชสถาน ก่อตั้งเมื่อ
17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1727 โดยมหาราชาสวาอี ชัยสิงห์ที่ 2 เจ้าครองนครอาเมร์ (Amer) ในปัจจุบันชัยปุระยังเป็นที่รู้จักกันดีในอินเดียว่า "นครสีชมพู" สาเหตุเนื่องมาจาก ในปี ค.ศ. 1876
ในรัชสมัยของมหาราชาสวาอี ราม สิงห์ (Sawai Ram Singh) ได้มีพระบัญชาให้ทาสีอาคารบ้านเรือนต่าง
ๆ ในเมืองเป็นสีชมพูเพื่อเป็นการต้อนรับเจ้าชายเอ็ดเวิร์ด
เจ้าชายแห่งเวลส์ในคราที่เสด็จเยือนชัยปุระอย่างเป็นทางการ
ซึ่งสีชมพูนั้นก็ยังคงไว้จนถึงปัจจุบันและได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของชัยปุระจนทุกวันนี้
นำท่านไปจุดเช็คอินสุดชิค
ประตูปาตริก้า (Patrika gate) ประตูเมืองลำดับที่ 9 ของนครชัยปุระ ตั้งอยู่บริเวณวงเวียนจาวาฮาร์
(Jawahar Circle) ประตูสีพาสเทลสดใส สะบัดส่าหรีกันอให้เต็มที่รับรองรูปออกมาปังแน่นอน!
นำท่านชม บ่อน้ำขั้นบันได พานนา มีนา กา คุนด์ (Panna Meena Ka Kund) หรือ
บ่อน้ำโบราณแบบขั้นบันไดใจกลางเมือง ตั้งอยู่ใกล้กับแอมเบอร์ฟอร์ต
ออกแบบเป็นแนวทแยงแปดชั้นจากปากบ่อลงไปด้านล่างก้นบ่อนับเป็นสถาปัตยกรรมสวยงาม
ที่เป็นเสมือนอัญมณีที่ซ่อนอยู่ของ นครชัยปุระแห่งนี้ อุ่นเครื่องก่อนเริ่มทริปที่
ตลาดฮาวามาฮาล (Hawa Mahal Bazaar) มีทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า หรือเครื่องประดับหลากหลากหลายแบบ
ได้ตามอัธยาศัย หรือจะไปคาเฟ่เก๋ๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ
ชมวิวฮาวามาฮาลแบบสุดปังก็ยังได้ แล้วมาต่อราคาอย่างสนุกสนานที่ ตลาดบาปูร์
กับพ่อค้าอินเดียก็ยังได้
นำท่านเช็คอิน สัญลักษณ์เมืองชัยปุระพระราชวังแห่งสายลม (Hawa
Mahal) ถ่ายรูปด้านนอกเท่านั้น หนึ่งในหลายพระราชวังที่อยู่ในกำแพงเมืองของนครสีชมพูแห่งนี้
พระราชวังสายลมเคยเป็นฮาเร็มของมหาราชา มีลักษณะเป็นอาคาร 5
ชั้น สร้างด้วยหินทรายออกแดง รูปแบบของสถาปัตยกรรม สไตล์เปอร์เซียกับโมกุล
ที่สวยเด่นคือลวดลายฉลุหินตามหน้าต่าง ช่องระบายอากาศที่บรรดา
นางสนมในวังใช้เป็นที่แอบดูชีวิต ความเป็นอยู่ของสามัญชนทั่วไปด้านนอก
และประโยชน์อีกอย่างคือเป็นช่องแสงและช่องลมมีช่องหน้าต่าง จำนวนมากถึง 152 ช่อง เลยทีเดียว
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม/ภัตตาคาร
คืนที่
1 Ramada Jaipur หรือเทียบเท่า
วันที่ 2
ชัยปุระ - บิคาเนอร์
B
L
D
เช้า บริการอาหารเช้า
ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านไป แอมเบอร์ฟอร์ท (Amber fort) ไฮไลท์นั่งช้างขึ้นชมพระราชวัง
เดิมเคยเป็นราชธานีของเมืองชัยปุระ
สร้างที่เคยเป็นป้อมปราการเก่าในศตวรรษที่ 11 สร้างขึ้นโดยมหาราชาแมนสิงห์ ใน ปี ค.ศ. 1592
และเสร็จสิ้นในสมัยของมหาราชาใจสิงห์ ป้อมแห่งนี้เป็นต้นแบบที่ดีของสถาปัตยกรรมแบบราชปุต
(Rajput) นอกจากนี้ในสมัยก่อนด้านล่างของป้อมยังเป็นทะเลสาบ
จึงเป็นปราการสำคัญเพื่อป้องกันข้าศึกได้อีกชั้น
ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของราชวงศ์กาญจวาหาอยู่หลายร้อยปี
ก่อนมหาราชาสะหวายจัย ซิงห์ที่ 2 จะตัดสินใจย้ายลงไปสร้างเมืองใหม่ยังชัยปุระ....ภายในพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ท
ประกอบด้วยพระตำหนักต่างๆ
ซึ่งส่วนใหญ่จะสร้างในสมัยของมหาราชามาน ซิงห์ (Maharaja Man Singh)
ในปี ค.ศ. 1592
และได้มีการขยายต่อเติมโดยมหาราชาองค์ต่อๆมา ช่วงนั้นจักรวรรดิโมกุลเข้ามามีอิทธิพลในดินแดนนี้จึงทำให้รูปแบบสถาปัตยกรรมภายในเป็นการผสมผสานระหว่างราชปุต
กับโมกุล...ได้เวลาอันสมควรนำท่านนั่งรถจี๊บกลับไปที่รถ
แวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ณ จาลมาฮาล (Jal Mahal) หรือพระราชวังสายน้ำ (Water Palace) ซึ่งตั้งเด่นสง่าอยู่กลางทะเลสาบมันสกา
(Man Sagar) โดยพระราชวังแห่งนี้ถูกต่อเติมและปรับปรุงโดยมหาราชาสะหวายจัยสิงห์ที่
2 ตัวพระราชวังนั้นสร้างได้อย่างสวยงามตามสถาปัตยกรรมราชปุตและโมกุลซึ่งสามารถพบได้ทั่วไปในสิ่งก่อสร้างในรัฐราชสถาน
โดยมีเทือกเขานหาร์การห์ตั้งอยู่เบื้องหลัง ตัวอาคารสร้างโดยใช้หินทราย
ประกอบด้วยทั้งหมด 5 ชั้นซึ่ง 4 ชั้นล่างจะถูกน้ำท่วมเมื่อทะเลสาบมีระดับน้ำสูงสุด
โดยเหลือเพียงชั้นบนสุดซึ่งจะเผยขึ้นมาเหนือน้ำเท่านั้น
จากนั้น เข้าชม
พระราชวังหลวงหรือพระราชวังซิตี้พาเลซ
(City Palace) พระราชวังอันเป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งชัยปุระ สร้างขึ้นในสมัยมหาราชาไสวจัยซิงห์ที่
2 จากนั้นก็ได้รับการดูแลต่อเติมโดยมหาราชาของชัยปุระรุ่นต่อๆมา
โดยสถาปัตยกรรมได้รับการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมแบบ ราชปุตกับโมกุล
โดยซิตี้พาเลซได้เปิดให้เข้าชมในนามของพิพิธภัณฑ์ไสวมานซิงห์
ภายในเขตพระราชฐานมีศาลาว่าราชการที่มหาราชาใช้ปรึกษางานกับข้าราชบริพาร
ตั้งอยู่กลางผังพระราชวังและเหยือกเงิน (Silver Urms) แท้ๆ 2 ใบของมหาราชามัดโฮซิงห์ที่ 2 (Maharaja Madho Singh II) ซึ่งเหยือกสีเงินนี้จะวางอยู่ของประตูทางเข้า เหยือกนี้มีความสูงถึง 1.6
เมตร บรรจุน้ำได้ 900 ลิตร ในอดีตเคยถูกใช้บรรจุน้ำจากแม่น้ำคงคาเพื่อนำไปใช้ในพิธีราชาภิเษกของกษัตริย์เอ็ดเวิร์ดที่ 7
นำท่านชม หอดูดาวจันทรามันตรา (Jantar Mantar
observatory) อนุสรณ์สถานทางด้านดาราศาสตร์ที่สร้างในสมัยคริสต์ศตวรรษที่ 18 ตั้งอยู่ใกสร้างโดยมหาราชา ไสว สิงห์ที่ 2
(ค.ศ.1699 – 1743) ผู้มีความสามารถทางด้านดาราศาสตร์แห่งราชวงศ์โมกุล หอดูดาวจันทรามันตราเป็นหอดูดาวแห่งแรกและเป็น
1 ใน 5 หอดูดาวที่ทรงสร้างขึ้น มีสภาพสมบูรณ์และมีขนาดใหญ่ที่สุด หอดูดาวอีก 4
แห่งถูกสร้างขึ้นใน เมืองต่างๆ ดังนี้ กรุงนิวเดลี (Delhi) เมืองอุชเชน (Ujjain) เมืองพาราณสี
(Varanasi) และ เมืองมธุรา (Matura) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก
Private Rooms at the City Palace, Jaipur Private Zone พระราชวังส่วนในของมหาราชา
***โซนพิเศษราคาประมาณ
3500-4000 รูปี ไม่รวมในค่าทัวร์ โปรดเชคกับหัวหน้าทัวร์อีกครั้ง***
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน
ณ โรงแรม/ภัตตาคาร
บ่าย ออกเดินทางสู่ เมืองบิคาเนอร์ ระยะทาง 340 ก.ม.
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง“เมืองบิคาเนอร์” Bikaner ตั้งอยู่ท่ามกลางทะเลทรายธาร์เป็น “สวรรค์ทางวัฒนธรรมและสวรรค์ของนักท่องเที่ยว”
บิคาเนอร์ มีความงดงามในด้านสถาปัตยกรรมศิลปะและวัฒนธรรมที่เต็มไปด้วยสีสันการเฉลิมฉลองและความมหัศจรรย์ทางวัฒนธรรมเมืองนี้จะนักท่องเที่ยวหลงใหลกับอูฐที่ล้อมรอบเนินทรายที่สวยงามพระราชวังและป้อมโบราณ
ถูกเรียกว่าเป็นหนึ่งในสามอาณาจักรทะเลทรายที่ยิ่งใหญ่ของรัฐราชสถานเมืองที่พรั่งพร้อมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของโลกเก่า
และแสดงให้เห็นถึงยุคสมัยแห่งราชปุตที่มั่งคั่ง...ชมวิวระหว่างสองข้างทางจนถึงจุดหมาย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม
คืนที่ 2 Hotel Vesta Bikaner หรือเทียบเท่า
วันที่ 3
บิคาเนอร์ - จัยแซลเมียร์
B
L
D
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรม
จากนั้น นำท่านชมเมืองบิคาเนอร์ เมืองนี้ก่อตั้งในปี 1488 โดยเจ้าชายแห่ง
Rathore คือเจ้าชาย Rao Bikaji พระโอรสของมหาราชา
Rao Jodhaji ผู้ก่อตั้งเมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) ด้วยความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะลงรอยกันนักกับพระบิดา จึงทำให้เจ้าชาย Rao
Bikaji ออกไปสร้างอาณาจักรใหม่ของตนเองให้ห่างจากเมือง Jodhpur พระองค์ได้แปลงพื้นที่รกร้างว่างเปล่าขนาดใหญ่ที่ยังไม่มีผู้คนไปอยู่อาศัยทางเหนือของจ๊อดปูร์ให้เป็นเมืองบิคาเนอร์ที่เรารูจักกันในปัจจุบัน
เมืองที่เปี่ยมสีสันแห่งนี้โอบล้อมด้วยกำแพงยาว 7 กิโลเมตร โดยมีประตูทางเข้า 5 ประตู
และเป็นที่ตั้งของป้อมปราการมากมาย รวมถึงวัด และเทวาลัยจำนวนมาก บิคาเนอร์ในปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่สี่ของรัฐราชาสถาน
แม้ว่าจะอยู่ในทะเลทรายธาร์ แต่เมืองบิคาเนอร์ถือเป็นโอเอซิสบนเส้นทางการค้าระหว่างเอเชียกลางและชายฝั่งคุชราต
นำท่านชมป้อมสีแดงแห่งเมืองบิคาเนอร์
หรือป้อมจูนนาการ์ (Junagarh Fort) วังมหาราชาที่อยู่ในสภาพดีสุดแห่งหนึ่งในราชาสถาน
สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1588 ถูกสร้างขึ้นโดยราชปุต Rao
Bika ด้วยการต่อสู้กับชนพื้นเมืองจนสามารถตั้งถิ่นฐานได้ แม้ผ่านการรุกรานจากมหาโมกุลหลายครั้งแต่ทะเลทรายที่อยู่รอบด้านรวมทั้งความกล้าหาญของนักรบ
ช่วยให้เมืองอยู่รอดเสมอมา ภายในป้อมใหญ่แบ่งเป็นหลายส่วน เช่น Chandra
Mahal, Phool Mahal, Karan Mahal และ Anoop Mahal
จากนั้น นำท่าน นั่งรถตุ๊กตุ๊กชมย่านเมืองเก่าเมืองบิคาเนอร์ ชม รัมปูเรียฮาเวลี (Rampuria Haveli) คฤหาสน์สุดหรู 7 หลัง ของท่านเศรษฐีบิคาเนอร์
สร้างขึ้นต้ังแต่ช่วงปี ค.ศ. 1400
มีการใช้หินทรายแดงในการสร้างคฤหาสน์ทุกหลัง แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรบรรจง
ตกแต่งด้วยไม้เนื้อดี มีการผสมผสานงานศิลปะแบบโมกุล วิคตอเรียนและราชปุตได้ อย่างลงตัวถ่ายรูปลงอวดเพื่อนๆโซเชียลรับรองว่าปัง
!
กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร
บ่าบ เดินทางสู่
เมืองจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer) ระยะทาง 330 กิโลเมตร
ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง “จัยแซลเมียร์”
คือเมืองที่ได้รับสมญานามว่า “นครสีทอง” หรือ ณ ที่ฟ้าจรดทราย
อยู่บนที่ราบสูงทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) อันยิ่งใหญ่ของอินเดีย
เป็นเมืองตั้งอยู่บนที่ราบสูงกลาง ที่ราบทะเลทรายธาร์ มีกำแพงสูงใหญ่ดูโอฬาร
เป็นเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ทางตะวันตกสุดของแคว้นราชาสถาน
ในอดีตเคยเป็นเส้นทางการค้าที่ สำคัญระหว่างอินเดียกับตะวันออกกลาง
นครแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นจากหินทรายสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่
เมื่อยามต้องแสงอาทิตย์อัสดงที่ไล้ลงบนพื้นผิวของหินเหล่านี้
ก็จะปรากฏให้เห็นเป็นสีทองอร่ามตา และนี่คือที่มาของสมญา “นครสีทอง”
ด้วยเหตุที่จัยแซลเมียร์เคยเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญ
ส่งผลให้พ่อค้าวาณิชย์ในตระกูลดังๆ หลายๆคนร่ำรวยกันอย่างมหาศาล
กลายเป็นอภิมหาเศรษฐี มีคฤหาสน์ที่ใหญ่โตมโหฬาร .
ถึง..เมืองจัยแซลเมียร์
นำท่านเข้าสู่ที่พักเก็บสัมภาระ..
จากนั้น นำท่านเดินทางสู่
ทะเลทรายธาร์ (Thar Desert) ทะเลทรายขนาดใหญ่
ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียและปากีสถาน มีพื้นที่มากกว่า 200,000 ตร.กม.
ถือเป็นพื้นที่แห้งแล้งที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ทะเลทรายมากกว่าร้อยละ 60
ตั้งอยู่ในรัฐราชสถาน ส่วนที่เหลือกระจายไปในรัฐคุชราต, รัฐปัญจาบ และรัฐหรยาณา และส่วนที่กระจายในปากีสถานอยู่ในแคว้นสินธ์ และแคว้นปัญจาบทะเลทรายล้อมรอบด้วยทิวเขาอะราวัลลีทางด้านตะวันออก
แม่น้ำคงคาทางด้านตะวันตก แม่น้ำสัตเลชทางด้านเหนือและทะเลอาหรับทางด้านใต้ พิเศษ ขี่อูฐท่องทะเลทรายธาร์ ชมสันทราย Sam
Sand Dunes
เป็นที่ซึ่งโค้งขอบฟ้าจรดกับผืนแผ่นทรายได้อย่างงดงามเกินคำบรรยาย...ชมพระอาทิตย์ตกดินแสงอาทิตย์ทาสีทรายสีเหลืองตรงหน้าเป็นสีทอง
ที่นี่สัมผัสได้ถึงวิวทะเลทรายที่แท้จริง อิสระให้ท่านเก้บภาพความประทับใจ ช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกดิน
ล้วนเต็มไปด้วยความน่าหลงใหลชมพระอาทิตย์อัสดง...ได้เวลาอันสมควรนำท่านเดินทางสู่แคมป์เพื่อรับประทานอาหารกลางทะเลทรายพร้อมชมโชวร์พื้นเมืองราชาสถาน
และการร่ายรำของชาวทะเลทรายธาร์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ พร้อมชมโชวร์
พิเศษ!! ชมโชว์การเต้นระบำราชาสถานอันเป็นเอกลักษณ์และรับประทานอาหารค่ำ
คืนที่
3 Hotel Desert Palace Jaisalmer หรือเทียบเท่าวันที่ 4จัยแซลเมียร์ - จ๊อดปูร์BLDเช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมจากนั้น นำท่านชมเมือง “จัยซัลเมียร์”ความเชื่อหนึ่งที่คนจัยซัลเมียร์เชื่อถือเกี่ยวกับมหาราชาของพวกเขา คือ ราชบุตรแห่งจัยซัลเมียร์ สืบเชื้อสายมาจากพระกฤษณะ และจัยซัลเมียร์ เป็นเมืองที่ค่อนข้างแห้งแล้ง สร้างอาณาจักร โดย ราว จัยซาล (Rao Jaisal) เมื่อปีค.ศ.1156นำท่านชม สวนบาดาบาค (Bada Bagh) แปลว่า "สวนใหญ่" สร้างขึ้นโดยมหาราชาแห่งรัฐจัยแซลเมียร์ ในศตวรรษที่ 18-20 ตอนต้น เป็นสุสานหลวงของ ราชวงศ์ Bhattiนำท่าน ทะเลสาบกาดซิซาร์ (Gadsisar Lake) โอเอซิสขนาดมหึมาท่ามกลางทะเลที่สร้างโดยมหาราชาวาลกาดซี ราว ค.ศ.ที่ 14 ซึ่งทะเลสาบนี้เป็นแหล่งน้ำที่สำคัญของเมืองจัยแซลเมียร์ รอบๆทะเลสาบจะมีวัดและอนุสรณ์สถานเล็กๆ สีเหลืองทองอร่าม และใช้เป็นสถานที่จัดงานประเพณี “กานกัวร์” (Gangaur) โดยมีมหาราวัลของจัยแซลเมียร์เป็นผู้ทำนำพิธีด้วยตัวเอง ซึ่งประเพณีนี้หญิงโสดจะโยนดอกไม้ลงไปในทะเลสาบและอธิษฐานขอคู่ชีวิตที่ดีๆ นำท่านชมแลนด์มาร์ค ป้อมปราการจัยแซลเมียร์ (Jaisalmer Fort) ป้อมปราการขนาดใหญ่ที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย สร้างโดย Bhatti Rajput rule Rawal Jaisal ค.ศ. 1156 โดยป้อมนี้ถือว่าเป็นป้อมที่สร้างลำดับที่ 2 ของรัฐราชสถานรอบๆ ป้อมจัยแซลเมียร์มีหอรบถึง 99 หอ โดยศัตรูหลักของเมืองนี้คือ บรรดาเจ้าราชปุตของนครต่าง ๆ รวมถึงจักรพรรดิอัคบาร์แห่งโมกุล ซึ่งต่อมากลายเป็นเขยของเมืองนี้ไปในที่สุด ปัจจุบัน ป้อมจัยแซลเมียร์เป็นป้อมเดียวในอินเดียที่มีผู้คนอาศัยอยู่ด้านบนบนเขาทิตรีกูฏชมความสวยงามของ “ปราสาททราย” ที่ตั้งตระหง่านท่ามกลางทะเลทรายภายในป้อมมีบ้านพักของชาวบ้านที่พำนักอยู่อาศัยมานานนับร้อยปีท่านจะได้เห็นทัศนียภาพของเมืองจัยแซลเมียร์ จากนั้นนำชมความงามของคฤหาสน์ชมคฤหาสน์เสนาบดี หรือ ฮาเวลี (Haveli) ฮาเวลีแบบจัยซัลเมียร์ สร้างโดยที่เจ้าของจะต้องมีเงินทองมากมายจึงจะทุ่มเงินสร้างคฤหาสน์ไว้อยู่อาศัยได้ แต่นอกจากความใหญ่โตแล้ว ฮาเวลีของเมืองจัยแซลเมียร์นั้น มีลักษณะเฉพาะตัว ไม่เหมือนเมืองอื่นๆ คือเป็นคฤหาสน์ที่สร้างจากหินทรายสีทอง ส่วนอาคารชั้นล่างยกสูงจากพื้นเพื่อป้องกันฝุ่นจากทะเลทรายชมคฤหาสน์ Nathmal Ji Ki Haveli ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง มีชื่อเสียงในด้านรูปแบบสถาปัตยกรรมซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบราชปุตและโมกุล คฤหาสน์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของ Diwan Mohata Nathmal ส่วนหน้าอาคารที่สวยงามได้รับการออกแบบเป็นรูปนก ช้าง ดอกไม้ จักรยาน รถจักรไอน้ำและทหารกลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรมบ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองจ๊อดปูร์ (Jodhpur) โยธาปุระ เมืองสีฟ้า ระยะทางประมาณ 290 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง “เมืองจ๊อดปูร์” เมืองที่ได้ฉายาว่าเมืองแห่งความตายเพราะอยู่กลางทะเลทรายธาร์ในอดีต เมืองสีน้ำเงินจ๊อดปูร์ Jodhpur หรือ เมืองโยธะปุระ ในปัจจบันเป็นเมืองโรแมนติกหรือเมือง โยธะปุระ นครนักรบ ทั่วทั้งเมืองเป็นสีฟ้าน้ำทะเล ใหญ่เป็นอันดับสองในแคว้นราชาสถาน ตั้งโดยสร้างโดย มหาราชา ราโอ จอดา (Rao Jodha) แห่งราชวงศ์ Rathorถือเป็นเมืองเก่าแก่ของพวกราชบุตรเป็นต้นกำเนิดของอีกหลายราชวงศ์เช่นราชาแห่งบิคาเนอร์ก็เคยเป็นเจ้าชายแห่งจ๊อดปูร์ความเก่าทำให้เมืองนี้มีมนต์ขลังเป็นศูนย์กลางของราชาสถานตั้งแต่อดีตกาลนานหลายร้อยปี สีน้ำเงินหรือสีฟ้านี่เป็นสีของวรรณะพราหมณ์แล้วเมืองนี้ก็มีคนวรรณะนี้มาก บ้านเรือนเลยทาสีน้ำเงินทั้งเมือง กับเหตุผลที่ 2ก็คือ เพราะความที่อยู่กลางทะเลทรายธาร์ที่ร้อนและแห้งแล้ง การทาบ้านเรือนสีฟ้าหรือสีน้ำเงินจะทำให้ดูสบายตาและเย็นใจมากขึ้น ถึงเมือง จ๊อดปูร์ ท่านช้อปปิ้งที่ร้าน Maharani Textiles & Handicrafts มีให้เลือกซื้อทั้งของสะสมโบราณ เสื้อผ้า ผ้า พรมและอื่นๆอีกมากมายในราคาสมเหตุสมผล ..ได้เวลาอันสมควรเข้าสู่ที่พักค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม พักผ่อนตามอัธยศัยคืนที่ 4 Zone by the Park Jodhpur หรือเทียบเท่าวันที่ 5จ๊อดปูร์ - รานัคปูร์ - อุไดปูร์BLDเช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมจากนั้น นำท่านชมเมืองจ๊อดปูร์ นครสีฟ้าแห่งราชาสถาน เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของรัฐราชาสถาน รองจาก ชัยปุระ หรือ จัยปูร์ เมืองสีชมพู เมืองแห่งสีฟ้า ฉายานี้ได้มาเพราะว่า คนทั้งเมืองได้พร้อมอกพร้อมใจกันทาสีบ้านด้วยสีฟ้ากันแทบจะทุกหลัง สีฟ้าเป็นสีของพราหมณ์ และ การทาสีฟ้าจะช่วยให้บ้านเย็นลงและไล่แมลงได้ด้วย นำท่านนั่งตุ๊กตุ๊กชมเมืองจ๊อดปูร์ ถ่ายรูปกับอาคารบ้านเรือนสีฟ้าหลากหลายเฉดทั้งฟ้าแลน้ำเงิน ไม่ต้องไปไกลถึงโมร็อกโก พาท่านชม อนุสรณ์สถานจาสวานต์ธาดา (Jaswant Thada) สิ่งปลูกสร้างสีขาวสะอาดตาที่ สร้างด้วยหินอ่อนหลังคาทรงปรางค์ปราสาทประดับโดยหินอ่อน ตั้งอยู่ห่างจากป้อมเมหุ์รานการห์ไปประมาณ 1 กิโลเมตร อนุสรณ์นี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1899 เพื่ออุทิศให้กับมหาราชาจัสวันต์ ซิงห์ที่ 2 (Maharaja Jaswant Singh II) หลังจากเสียชีวิตไปแล้ว 4 ปี โดยเป็นมหาราชาที่ได้การนับถือจากประชาชนมากมาย เป็นทั้งผู้ริเริ่มโครงการชลประทาน จัสวันต์ธาดาสร้างจากหินอ่อนจากแหล่งเดียวกับที่นำไปสร้างทัชมาฮาล นำท่านชม ป้อมเมห์รานการห์ (Mehrangarh Fort ) ป้อมนี้เป็นป้อมโบราณที่มีความยิ่งใหญ่และเป็นหนึ่งในสี่ของพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในอินเดีย ใน ค.ศ. 1459 เมื่อฤาษีท่านหนึ่งบอกว่ามหาราชาจ๊อดธะ พระองค์ควรสร้างเมืองขึ้นที่นี่ จ๊อดปูร์เป็นศูนย์กลางอาณาจักรใหญ่แต่ครั้งโบราณ ป้อมจึงถูกเสริมเติมแต่งให้มีขนาดใหญ่มหึมา ป้อมโบราณที่ยังอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ภายในยังเป็นพิพิธภัณฑ์ที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงาม สถานที่แห่งนี้เคยใช้เป็นฉากถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Batman The dark knight rises (2012) อีกด้วย ใครที่ชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ควรพลาด พระตำหนักพูลมาฮาล (Phool Mahal) หรือ พระตำหนักแห่งมวลดอกไม้ สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1724 โดยได้รับการยกย่องว่าสวยงามและละเอียดอ่อนที่สุดในบรรดาตำหนักทั้งหมดที่อยู่ภายในป้อม ภาพวาดที่ผนังและเพดานเป็นผลงานของศิลปินเพียงท่านเดียว ส่วนใหญ่เป็นภาพวาดลายดอกไม้และเถาไม้ประดับจำนวนมาก โดยเรียกการวาดภาพแบบนี้ว่า รักมาลา (Ragmala Painting) จุดประสงค์ของห้องนี้ใช้เพื่อความสำราญ ฟังดนตรีและชมการเต้นรำ ลานราชาภิเษก (Coronation Courtyard) ที่้เรียกชื่อนี้เพราะมีบัลลังก์แกะสลักด้วยหินอ่อน ซึ่งเป็นที่ประทับของมหาราชาแห่งจ๊อดปูร์ในวันที่ได้รับการสถาปนาให้ปกครองเมืองแต่ละยุคตั้งอยู่ ตำหนักจันกิมาฮาล (Jhanki Mahal) ด้านในเป็นพิพิธภัณฑ์เปลเด็ก ซึ่งงดงามมีเอกลักษณ์สมกับเป็นเครื่องใช้ของเชื้อพระวงศ์พิพิธภัณฑ์ล้ำค่า เป็นพิพิธภัณฑ์เสลี่ยงหรือปัลกิกานา เป็นเสลี่ยงโบราณสวยงามและหาชมได้ยาก และยังมีห้องแสดงประทุนหลังช้าง ของมหาราชายุคต่างๆ มีส่วนที่ใช้แสดงอาวุธต่างๆ ที่ใช้ในอดีตสำหรับสู้รบ พระตำหนักโมติมาฮาล (Moti Mahal) หรือพระตำหนักไข่มุก จุดเด่นอยู่ที่การนำเปลือกหอยมุกมาบด ก่อนนำไปผสมปูนแล้วฉาบลงบนผนังห้อง ทำให้เวลาค่ำคืนจุดเทียนผนังห้องจะดูแวววาว ส่วนเพดานใช้กระจกเป็นสีๆ จุดประสงค์ของห้องนี้เพื่อใช้ในการหารือราชการกับข้าราชบริพารระดับสูง ตากัตวิลลา (Takhat Villa) เป็นห้องนอนหรูหราอลังการ ของมหาราชาตากัต ซิงห์ (Maharaja Takhat Singh) ที่ห้องมีความแปลกคือเพดานมีการประดับประดาด้วยลูกบอลคล้ายลูกบอลคริสต์มาส แวะถ่ายรูป (ด้านนอก) พระราชวังอุเมดภวัน(Umaid Bhawan Palace) พระราชวังหินทรายสีเหลืองอันยิ่งใหญ่แห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2471-2486 บนสวนขนาด 26 เอเคอร์ จึงเป็นที่พักส่วนตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โรงแรมแห่งนี้มีการออกแบบสไตล์อาร์ตเดโคและเรเนซองส์ ในปัจจุบันส่วนหนึ่งของวังนั้นเป็นโรงแรมที่บริหารโดยตาช โฮเทลส์ (Taj Hotels) เจ้าของโรงแรมทัชมาฮาลพาเลซในมุมไบ ส่วนของโรงแรมอุเมดภวันนี้ได้รับรางวัลโรงแรมที่ดีที่สุดในโลกสาขาตัวเลือกของนักท่องเที่ยว (World's best hotel at the Traveller's Choice Award) ของ TripAdvisor ในปี 2016 กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ โรงแรม13.00 น. นำท่านเดินทางสู่ เมืองอุไดปูร์ เวนิสแห่งตะวันออกในอินเดีย ระยะทางประมาณ 250 ก.ม.ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง เมืองอุไดปูร์ (Udaipur) เมืองท่องเที่ยวที่รู้จักกันในชื่อ เมืองแห่งทะเลสาบ ในอดีตเคยเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรเมวาร์ นครนี้ตั้งขึ้นโดยอุทัย สิงห์ที่ 2 ราชปุตแห่งราชวงศ์สิโสทิยา ตามหลังการย้ายเมืองหลวงจากจิตโตรครห์มาที่อุทัยปุระ หลังจิตโตรครห์ถูกยึดโดยจักรพรรดิอักบัร เมืองอุทัยปุระได้เป็นเมืองหลวงจนถึงปี 1818 เมื่อได้กลายเป็นรัฐมหาราชาภายใต้การปกครองของอังกฤษระหว่างทางผ่าน (จ๊อดปูร์-รานัคปูร์ใช้เวลาประมาณ 2.30 ชม.) เมืองรานัคปูร์ (Ranakpur) นำท่านชม วัดเชน (Chaturmukha Jain Temple) วัดของศาสนาเชน สร้างโดยคหบดี Dharna Sah เมื่อเกือบ 500 ปีก่อน ภายในประกอบด้วยห้องโถงกว่า 24 ห้อง โดมทั้งหมด 80 โดม และเสาถึง 1,144 ต้น เสาแต่ละต้นจะถูกแกะสลักอย่างงดงามมาก..เดินทางถึงอุไดปูร์(รานัคปูร์-อุไดปูร์ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.) ถึงเมืองอุไดปูร์นำท่านเดินทางไป ล่องเรือทะเลสาบพิโชลา (Pichola Lake) ทะเลสาบใจกลางเมืองอุไดปูร์ เป็นที่ตั้งของเกาะ 2 แห่ง โดยเกาะแรกตั้งอยู่กลางทะเลสาบ เป็นที่ตั้งของพระราชวังจักนิวาส ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนเป็นโรงแรมเลกพาเลซ ส่วนอีกเกาะซึ่งมีขนาด เล็กกว่า ตั้งอยู่ด้านซ้ายมือของพระราชวังจักมันเดียร์ ซึ่งปัจจุบันคือโรงแรมการ์เดนพาเลซ (Lake Garden Palace) ชื่นชมกับสถาปัตยกรรมที่หรูหราอลังการของพระราชวังจากริมน้ำและทิวทัศน์รอบทะเลสาบยามแสงอาทิตย์สีทองสาดส่องมากระทบผิวน้ำ ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติกสุดๆค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ โรงแรม คืนที่ 5 Radisson Udaipur หรือเทียบเท่า วันที่ 6อุไดปูร์ – เดลลี (บินภายประเทศ)BL-เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมจากนั้น นำท่านชม เมือง Udaipur เป็นเมืองทางใต้ของ Rajastan (แคว้นราชสถาน) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ Pichola (พิโชล่า) ก่อตั้งขึ้นราวปี ค.ศ. 1568 (449 ปีก่อน) ตามพระประสงค์ของ Maharaja Udai Singh II (มหาราชา อุเด ซิงห์ ที่ 2) ทะเลสาบ Pichola ที่เป็นทำเลสุดโรแมนติกแห่ง Udaipur นี้ ไม่ใช่ทะเลสาบธรรมชาติ แต่เกิดจากการขุดเพื่อกักเก็บน้ำ เพื่อใช้บริโภคในเมือง!!!นำท่านชม วัดจักดิศ (Jagdish Temple) วัดฮินดูที่มีขนาดที่ใหญ่ที่สุดในเมือง อุไดปูร์ มีอายุเกือบ 400 ปี สร้างในปี ค.ศ. 1651 ในสมัยของมหารานาจากัต ซิงห์ที่ 2 (Maharana Jagat Singh II) โดยภายในมีหินสีดำแกะสลักเป็นรูปจากานนาทซึ่งเป็นภาคหนึ่งชองพระวิษณุ และยังมีจุดเด่นอยู่ตรงการแกะสลักผนังวัดเป็นรูปนางอัปสราและสัตว์ลักษณะต่างๆให้เวลา..ช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองราชาสถาน ณ ถนน พระราชวังจากนั้น นำท่านเข้าชม พระราชวังหลวงอุไดปูร์ (Udaipur City Palace) ศูนย์กลางความวิจิตรอลังการ พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตั้งแต่เริ่มสร้างเมืองเมื่อปี ค.ศ. 1559 โดย Maharana Udai Singh และได้ต่อเติมขยับขยายเรื่อยมาโดยมหาราชาผู้ครองนครในยุคต่อมา จนกลายเป็นพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดในราชาสถานอย่างที่เห็นในทุกวันนี้กลางวัน บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารนำท่านชม สวนราชินี Saheliyon-ki-Bari สร้างโดย รานา ซันแกรม ซิงห์ (Rana Sangram Singh) สร้างให้กับพระชายาของพระองค์เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับเชื้อพระวงศ์ฝ่ายหญิงในช่วงฤดูร้อน ชมสระบัวขนาดใหญ่ น้ำพุและดอกไม้ ต้นไม้นานาพันธุ์ในสวนแห่งนี้ นำท่านชม บาร์กอร์ กิ ฮาเวลี (Bagore Ki Haveli) สร้างขึ้นโดย Shri Amar Chand Badwa ซึ่งเป็นเจ้าเมืองในขณะนั้นในปี ค.ศ.1751 ภายหลังได้ตกเป็นของมหาราชา และถูกปล่อยทิ้งร้างไว้เป็นเวลานาน ก่อนที่จะถูกบูรณะและปรับปรุงให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมื่อปี ค.ศ.1986 ภายจัดแสดงห้องต่างๆ ของเศรษฐีในยุคนั้นชม ท่าน้ำกานกัวร์ (Gangaur Ghat) ตั้งอยู่ริมทะเลสาบพิโชล่า ได้เวลาอันสมควร..16.30 น. นำท่านเดินทางไปสนามบินอุไดปูร์ 18.50 น. ออกเดินทางสู่ เดลลี โดยการบินอินดิโก เที่ยวบินที่ 6E 533620.10 น. เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติอินทิราคานธี เมืองเดลลี (New Delhi) ตรวจรับสัมภาระนำท่านเดินทางเข้าสู่อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศเพื่อเช็คอินเดินทางกลับกรุงเทพฯ (อิสระอาหารค่ำภายในสนามบินตามอัธยาศัย)23.30 น. ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 316 วันที่ 7กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ)---05.25 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ... *************หมายเหตุ :1. เวลาที่ปรากฏในโปรแกรมกับการปฏิบัติจริงอาจแตกต่างกันเล็กน้อย ขอให้ท่านรับทราบคำแนะนำการเปลี่ยนแปลงการนัด หมายเวลาในการทำกิจกรรมอีกครั้งจากหัวหน้าทัวร์2. บริษัทอาจทำการเปลี่ยนแปลงรายการ ได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม แต่จะยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาวะของสายการบิน โรงแรมที่พัก ภูมิอากาศ ภัยธรรมชาติ การนัดหยุดงานฯลฯ ตลอดจนสภาวะทาง เศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองภายใน อันเป็นสาเหตุให้ต้องเลื่อนการเดินทางหรือไม่สามารถจัดพาคณะท่องเที่ยวได้ตามรายการ “ราคาทัวร์สำหรับลูกค้าที่ถือพาสปอร์ตไทยเท่านั้น”***พาสปอร์ตต่างชาติโปรดติดต่อเรา**อัตราค่าบริการ โปรแกรม Beauty Rajesthan 7 วัน 5 คืน***ตั๋วราคาพิเศษออกตั๋วแล้วไม่สามารถ REFUND ได้ทุกกรณี*** กำหนดวันเดินทางอัตราค่าบริการหมายเหตุ: ผู้ใหญ่ (12 ปี ขึ้นไป)เดินทางตั้งแต่ 15 ท่านขึ้นไปผู้ใหญ่พัก 2 ท่าน (พักห้องละ 2-3 ท่าน)พักเดี่ยวเพิ่ม9- 14 กันยายน 256647,900.-8,500.-14 -20 ตุลาคม 256649,900.-9,500.-15 -24 พฤศิกายน 25665 – 11 ธันวาคม 2566(ปีใหม่) 30 ธันวาคม – 5 มกราคม 256752,900.-10,500.- ราคานี้*ผู้ใหญ่ (12 ปี ขึ้นไป) เนื่องจากเป็นราคาตั๋วกรุ๊ป ไม่มีราคาสำหรับเด็ก ..บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์กรุ๊ปออกเดินทางตั้แต่ 10-15 ท่านขึ้นไป / หรือปรับเปลื่ยนราคาหรือตามที่ได้ตกลงกับทางบริษัทฯการชำระเงินงวดที่ 1 : สำรองที่นั่งจ่าย 25,000 บาท / หลังมีการยืนยันกรุ๊ปเดินทางแน่นอนหรือตาม เจ้าหน้าที่กำหนด พร้อมส่งสำเนาหน้าหนังสือเดินทางให้เจ้าหน้าที่งวดที่ 2 : ชำระส่วนที่เหลือ 30 วัน ล่วงหน้าก่อนออกเดินทางหรือตามเจ้าหน้าที่กำหนด อัตราค่าใช้จ่ายรวม :Ø ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดสายการบิน ตามระบุในรายการØ ค่าตั๋วภายในประเทศชั้นประหยัดสายการบินตาม ตามระบุในรายการØ ค่าภาษีสนามบินทุกแห่งและค่าประกันภัยสายการบินØ ค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับหนังสือเดินทางไทย ยื่นแบบออนไลน์เท่านั้น (ไม่ต้องโชว์ตัว)Ø ค่าที่พักระดับมาตรฐาน 4 ดาว (พักห้องละ 2 ท่าน)ตามระบุในรายการØ ค่านั่งช้างขึ้นพระราชวังแอมเบอร์ฟอร์ต / ค่าขี่อูฐท่องเที่ยวทรายธาร์Ø รถโค้ชปรับอากาศตลอดการเดินทางตามระบุในรายการØ ค่าอาหารทุกมื้อตามระบุ/ค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ต่างๆ ตามระบุในรายการØ ค่าประกันภัยการเดินทางอุบัติเหตุวงเงิน 1,000,000 บาท และ ค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศวงเงิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลต่อเนื่องในประเทศไทย 50,000 บาท (คุ้มครองผู้เอาประกันภัย อายุระหว่าง 6-75 ปี ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยอายุต่ำกว่า 6 ปี หรือ ระหว่าง 76 ปีขึ้นไปจะมีเบี้ยประกันคุ้มครอง 50 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ / ผู้เอาประกันภัยอายุสูงกว่า 85 ปี ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคุ้มครอง) ประกันครอบคลุมการติดโควิดและการรักษาในต่างประเทศ(ต้องมีใบเสร็จโรงพยาบาลเท่านั้น)และหลังจากกลับจากต่างประเทศต่อเนื่องอีก 7 วัน วงเงินคุ้มครองอาหารเป็นพิษ (โดยแพทย์จะต้องระบุในใบรับรองแพทย์ว่า อาหารเป็นพิษเท่านั้น) แต่ทั้งนี้ย่อมอยู่ในข้อจำกัดที่มีการตกลงไว้กับบริษัทประกันชีวิต อัตราค่าใช้จ่ายไม่รวมØ ค่าจัดทำหนังสือเดินทาง (PASSPORT) และค่าทำใบอนุญาตที่กลับเข้าประเทศของคนต่างชาติหรือต่างด้าวØ ค่าใช้จ่ายอื่นๆนอกเหนือจากที่ระบุไว้ในรายการและค่าใช้จ่ายส่วนตัวต่างๆ เช่น ค่าโทรศัพท์ ค่าซักรีด ฯลฯØ ค่าธรรมเนียมน้ำมันของสายการบิน (ถ้ามี)Ø ค่าวีซ่าที่มีค่าธรรมเนียมแพงกว่าหนังสือเดินทางไทยØ ค่าภาษีหักณ ที่จ่าย 3% ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% (กรณีออกใบกำกับภาษี)Ø ค่าธรรมเนียมการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต VISA 3% AMEX 4%Ø ค่าน้ำหนักเกินพิกัดตามสายการบินกำหนดØ ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,พนักงานขับรถ วันละ 50 USD ต่อท่านØ ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรมและสนามบิน ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินด้วยตัวท่านเองØ ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ไทย ทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจในบริการของท่าน การให้ทิปตามธรรมเนียมทางบริษัทฯมิได้มีผลประโยชน์ใดๆทั้งสิ้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของท่านเพื่อเป็นกำลังใจให้กับไกด์ และคนขับรถข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ§ สำหรับห้องพัก 3 เตียงกรุณาแจ้งล่วงหน้าเพื่อตรวจสอบกับทางโรงแรม มีบริการเฉพาะบางโรงแรมเท่านั้น กรณีเดินทางเป็นผู้ใหญ่ 3 ท่าน แนะนำให้เปิดห้องพัก 2 ห้องเพื่อสะดวกกับท่านมากว่า§ กรณีเดินทางเป็นตั๋วกรุ๊ปหรือตั๋วหมู่คณะ หากออกตั๋วแล้วไม่สามารถขอเงินคืนได้และไม่สามารถเปลี่ยนวันเดินทางได้§ กระเป๋าเดินทางเพื่อโหลดท่านละ 1 ใบ นำหนักไม่เกิน 20 กก. กระเป๋าถือขึ้นเครื่องน้ำหนักไม่เกิน 7 กกกรณียกเลิก1. หากมีการชำระมัดจำทัวร์และต้องการยกเลิกไม่ว่ากรณีใดๆก็ตามต้องชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท2. ยกเลิกเดินทาง 30 วันล่วงหน้าก่อนการเดินทางหักค่าธรรมเนียมท่านละ 2,000 บาท และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี),ค่าโรงแรม,ค่าตั๋วรถไฟ,หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วงPeak seasonสายการบินให้มัดจำล่วงหน้า2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง)3. แจ้งยกเลิกเดินทาง 15-29 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 50% ของราคาทัวร์ + ค่าธรรมเนียม 2,000 บาท4. แจ้งยกเลกเดินทาง 0-14 วัน ก่อนการเดินทาง หัก 100 % ของราคาทัวร์***หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการนำพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช่จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม ยกเลิกช่วงเทศกาลü ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 50 - 60 วัน ชำระค่าบริการ ท่านละ 2,000 บาท + และใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง เช่น มัดจำตั๋วเครื่องบิน,วีซ่า,ค่าดำเนินการ (ถ้ามี),ค่าโรงแรม,ค่าตั๋วรถไฟ,หรืออื่นๆ โดยจะมีราละเอียดแสดงให้แก่ลูกค้าได้รับทราบ (หมายเหตุ: ช่วง Peak season สายการบินให้มัดจำล่วงหน้า 2-3 เดือนก่อนออกเดินทาง)ü ยกเลิกก่อนการเดินทาง สงกรานต์-ปีใหม่ 0 - 40 วัน ชำระ 100% ของราคาทัวร์ ข้อแนะนำและแจ้งเพื่อทราบ§ กรณีเดินทางโดยลูกค้าจัดการตั๋วเครื่องบินเอง (Land Only) *ในกรณีลูกค้าดำเนินการเรื่องตั๋วเครื่องบินเองและมาเที่ยวร่วมกับคณะ (Join Tour) ลูกค้าต้องดำเนินการมาพบคณะทัวร์ด้วยตัวเอง และต้องรับผิดชอบค่าใช่จ่ายในการมาพบคณะใหญ่ด้วยตัวเอง รวมถึงหากกรณีเที่ยวบินของคณะใหญ่เกิดความล่าช้าหรือยกเลิก เที่ยวบินอันด้วยสาเหตุใดๆก็ตามเงื่อนไขการเดินทาง1) บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดบางประการในทัวร์นี้ เมื่อเกิดเหตุสุดวิสัยจนไม่อาจแก้ไขได้2) บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ที่จะเลื่อนการเดินทางในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 10 ท่าน หรือตามที่บริษัทฯ กำหนด3) รายการนี้เป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องได้รับการยืนยันจากบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง หลังจากได้สำรองที่นั่งบนเครื่อง และโรงแรมที่พักในต่างประเทศเป็นที่เรียบร้อย แต่อย่างไรก็ตามรายการนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม4) บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับผิดชอบค่าเสียหายในเหตุการณ์ที่เกิดจากสายการบิน ภัยธรรมชาติ และอื่นๆที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของทางบริษัทฯหรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้นทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย, การถูกทำร้าย, การสูญหาย, ความล่าช้า หรือจากอุบัติเหตุต่างๆ5) หากท่านยกเลิกก่อนรายการท่องเที่ยวจะสิ้นสุดลง ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านสละสิทธิ์และจะไม่รับผิดชอบค่าบริการที่ท่านได้ชำระไว้แล้วไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น6) บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการห้ามออกนอกประเทศ หรือ ห้ามเข้าประเทศ อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมาย หรือเอกสารเดินทางไม่ถูกต้อง หรือ การถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆ7) ราคานี้คิดตามราคาตั๋วเครื่องบินในปัจจุบัน หากราคาตั๋วเครื่องบินปรับสูงขึ้น บริษัทฯ สงวนสิทธิ์ที่จะปรับราคาตั๋วเครื่องบินตามสถานการณ์ดังกล่าว8) กรณีเกิดความผิดพลาดจากตัวแทน หรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนมีการยกเลิก ล่าช้า เปลี่ยนแปลง การบริการจากสายการบินบริษัทฯขนส่ง หรือ หน่วยงานที่ให้บริการ บริษัทฯจะดาเนินโดยสุดความสามารถที่จะจัดบริการทัวร์อื่นทดแทนให้ แต่จะไม่คืนเงินให้สาหรับค่าบริการนั้นๆ9) มัคคุเทศก์ พนักงาน และตัวแทนของบริษัทฯ ไม่มีสิทธิ์ในการให้คำสัญญาใดๆ ทั้งสิ้นแทนบริษัทฯ นอกจากมีเอกสารลงนามโดยผู้มีอำนาจของบริษัทฯ กำกับเท่านั้น10) หากไม่สามารถไปเที่ยวในสถานที่ที่ระบุในโปรแกรมได้ อันเนื่องมาจากธรรมชาติ ความล่าช้า และความผิดพลาดจากทางสายการบิน จะไม่มีการคืนเงินใดๆทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทางบริษัทฯจะจัดหารายการเที่ยวสถานที่อื่นๆมาให้ โดยขอสงวนสิทธิ์การจัดหานี้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า11) เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น12) กรณีผู้เดินทางไม่สามารถเข้า-ออกเมืองได้ เนื่องจากเอกสารปลอมหรือการห้ามของเจ้าหน้าที่ไม่ว่าเหตุผลใดๆ ก็ตามทางบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการ ไม่คืนค่าทัวร์ทั้งหมด13) หากมีการยกเลิกการจองทัวร์ หลังจากยื่นวีซ่าเรียบร้อยแล้วบริษัทของสงวนสิทธิ์ในการนำพาสปอร์ตไปยกเลิกวีซ่าในทุกกรณี ไม่ว่าค่าใช่จ่ายในการยื่นวีซ่าจะรวมหรือแยกจากรายการทัวร์ก็ตาม14) ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ราคานี้เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยและท่องเที่ยวเป็นหมู่คณะแบบ Join Tour เท่านั้น กรณีต้องการตัดกรุ๊ปเหมาโปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง หากเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือ พระสงฆ์ โปรดสอบถามทางบริษัทอีกครั้ง เอกสารในการยื่นวีซ่าท่องเที่ยวอินเดียแบบ ออนไลน์ไม่ต้องมาแสดงตัว1. รูปถ่ายสี (ถ่ายมาไม่เกิน 3 เดือน ขนาด 2×2 นิ้ว) 1 รูป พื้นหลังสีขาว ไม่สวมแว่นตาหรือเครื่องประดับ, ไม่ใส่ชุดข้าราชการหรือเครื่องแบบใดๆ2. สำเนาหนังสือเดินทางมีอายุมากกว่า 6 เดือน 3. สำเนาบัตรประชาชน 1 ชุด4. สำเนาทะเบียนบ้าน 1 ชุด5. (กรณี) เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี ใช้สำเนาสูติบัตรและบัตรประชาชน6. (หากมี) สำเนาหน้าวีซ่าที่เคยเดินทางไปประเทศอินเดีย 1 ชุด